Keep a muse around
“muse” แปลว่า “แรงบันดาลใจที่รับต่อมาจากบุคลหนึ่งหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด” โปรเจ็กต์ของเราจึงต้องการทำหน้า “ส่งต่อแรงบันดาลใจ” จากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่ง เราเชื่อว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่อาจเริ่มจากแรงบันดาลใจเล็ก ๆ ที่ไม่หรูหรา การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอาจเกิดจากแรงบันดาลใจเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน
เราจึงอยากเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่ได้ส่งต่อสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจต่อเราไปสู่ผู้คนที่มีความคิดแบบเดียวกัน โดยหวังว่าสิ่งที่เป็น muse ให้เรา จะสามารถเป็น muse ให้กับผู้คนที่กำลังฝันถึงการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
Be a muse together
เราอยากส่งต่อแรงบันดาลใจให้ผู้คนที่หลากหลาย เราจึงต้องการผู้คนที่เชื่อในสิ่งนี้มาร่วมส่งต่อแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นไปพร้อม ๆ กัน
Substack ของ muse อยากเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างในการส่งต่อแรงบันดาลใจและความฝันถึงสังคมที่ดีขึ้น โดยผู้คนที่เชื่อว่าสังคมเป็นที่ที่ดีกว่าได้ เราอยากช่วยรวบรวม ดูแลแรงบันดาลใจต่าง ๆ ของผู้คนให้คงอยู่สืบไปถึงอนาคต
เราอยากให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ปลอดภัยในการที่จะร่วมฝันถึงความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ และหวังให้แรงบันดาลใจเหล่านั้นเชิญชวนให้ผู้คนมาร่วมฝันร่วมเชื่อกับเรามากขึ้น
เราต้องการ muse ของคุณ
FAQs
Q: muse foundation คืออะไร?
A: เป็นโปรเจ็กต์ที่ต้องการหา Solutions สำหรับสนับสนุนงาน Social Impact ให้ประสบความสำเร็จ และเปลี่ยนแปลงสังคมให้เป็นที่ที่ดีขึ้น
Q: muse foundation เป็นมูลนิธิหรือไม่?
A: คำว่า foundation เป็นส่วนหนึ่งของชื่อ ที่หมายถึง “รากฐาน” เพราะเราอยากให้สิ่งที่เรากำลังทำกลายเป็นส่วนหนึ่งของรากฐานการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
Q: muse foundation เป็น NGO หรือไม่?
A: เรากำลังมองหาโมเดลใหม่ในการผลักดันองค์กรเพื่อสังคมโดยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทำงานเพื่อสังคมไปพร้อม ๆ กัน ปัจจุบันเราเรียกตัวเองว่า บริษัทแสวงกำไรทางทางสังคม “For- ‘Social’ profit” โดยต้องการเทิร์นผลกำไรทางธุรกิจ ให้กลายเป็นกำไรทางสังคม
Q: muse foundation ทำอะไร?
A: เราผลักดันให้เกิด Ideators ด้าน Social Impact ได้มีพื้นที่ในการนำเสนอไอเดียและทดลองพัฒนาไอเดียให้เกิดขึ้นจริง
Q: muse ทำประเด็นอะไร?
A: เราไม่ได้มองตัวเองเป็นคนทำงานประเด็น เราสนใจเรื่องการหา solution ในการสนับสนุนคนทำงานประเด็นเสียมากกว่า เราเชื่อว่าในปัจจุบันมีคนทำงานประเด็นอยู่เป็นจำนวนมากในหลากหลายประเด็น การทำให้ “คนทำงาน” ในตัวประเด็นได้รับการสนับสนุนจนสร้าง impact ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่างหากที่เป็นความท้าทายของเรา
Q: แล้วจะทำได้อย่างไร?
A: สิ่งที่เราสนใจและพยายามผลักดัน คือการประยุกต์ใช้วัฒนธรรมแบบ opensource ปรับเข้ากับการทำงาน social impact ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
Q: ทำไมต้อง opensource?
A: เพราะเรามองว่าวัฒนธรรมแบบ opensource มีศักยภาพในการส่งเสริมนวัตกรรมสังคมได้เช่นเดียวกับนวัตกรรมอื่น ๆ ที่ถูกพัฒนาผ่านแนวคิดแบบ opensource มาแล้ว
Q: วัฒนธรรมแบบ opensource คืออะไร?
A: คือวัฒนธรรมที่เราให้ความสำคัญเรื่องความโปร่งใส (Transparency) ทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานและงบประมาณได้อย่างเปิดกว้าง ให้ความสำคัญเรื่องความร่วมมือแบบเปิดกว้าง (Co-Contribute) ที่อนุญาตให้ผู้คนสามารถเข้ามาร่วมแก้ไข ปรับปรุง นวัตกรรมนั้น ๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และการแบ่งปันทำซ้ำโดยไม่ถือเอกสิทธิ์ (Sharing & Duplicating) ที่เอื้อให้เราสามารถผลิตซ้ำนวัตกรรมนั้น ๆ แล้วนำไปปรับปรุง แก้ไข ปรับใช้ตามบริบทได้อย่างอิสระโดยไม่ยึดถือว่าเป็นสมบัติหรือความคิดส่วนตัว
นอกจากนี้เรายังอยากส่งเสริมแนวคิดเรื่อง Contributor ที่มองว่าคนที่ทำงาน Social Impact นั้นกำลัง “ร่วมลงทุน” บางอย่างเพื่อให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง และเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะ “คืนทุน” เป็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่คุ้มค่า ไม่ใช่เพียงการ “เสียสละ” (Sacrifice) บางสิ่งออกไปอย่างการให้ทานทำบุญ
Q: ทำไมต้องใช้ Substack?
A: เราสนใจพล็ตฟอร์มสำหรับรับข่าวสารที่เป็นทางเลือกของ Centralized Social Media ที่มี Algorithm ผูกติดอยู่กับแนวคิดการตลาดทำให้การส่งต่อแรงบันดาลใจอาจถูกปิดกั้นการเข้าถึง และอยากผลักดันวัฒนธรรมการรับข้อมูลข่าวสารแบบอื่น ๆ ให้เป็นทางเลือกของสังคม
Q: ไม่อยากให้คนได้รับรู้ในวงกว้าง?
A: เราเชื่อว่าหากมีคนที่แชร์ความคิดและความเชื่อร่วมกับเราเป็นจำนวนมากจะสามารถสร้าง impact ให้เกิดขึ้นได้จริง แต่ขณะเดียวกันเราก็ตั้งคำถามกับการได้มาซึ่งจำนวนการรับรู้และ impact ที่เกิดขึ้นจากการใช้ Social Media ว่าสร้างผลกระทบได้จริงหรือไม่ เราจึงอยากสื่อสารกับผู้คนในวงกว้างโดยอาศัยความสนใจส่วนตัวของผู้คน และไม่ถูกปิดกั้นด้วย Algorithm เชิงการตลาดเป็นหลัก และอยากขยายวงการรับรู้จากผู้คนกลุ่มนี้เป็นสำคัญ
Q: muse เชื่อในสิ่งใด?
A: สังคมที่ดีกว่านี้